PC เดสก์ทอปจาก HP - การใช้และแก้ไขปัญหาเมมโมรี่การ์ดรีดเดอร์ (Windows 7)

การเสียบการ์ด SDHC ความจุสูงในเมมโมรี่การ์ดรีดเดอร์ที่ไม่รองรับ อาจทำให้การ์ดไม่ทำาน หรือล็อคหน้าต่างใช้งานในคอมพิวเตอร์ แก้ไขปัญหาการล็อคค้าง โดยดับเบิลคลิกที่ไอคอน Safely Remove Hardware (ตัดการเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์อย่างปลอดภัย) (จากส่วนแจ้งเตือนที่มุมด้านขวาล่างของหน้าจอ) จากนั้นเลือกการ์ดรีดเดอร์ USB แล้วคลิก Eject (นำออก) หรือ Safely remove (ตัดการเชื่อมต่ออย่างปลอดภัย) การ์ดรีดเดอร์ไม่สามารถใช้งานได้จนกว่าจะรีสตาร์ทเครื่อง คุณสามารถนำเมมโมรี่การ์ดออกได้อย่างปลอดภัยในตอนนี้ และใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทำงานอย่างอื่นต่อไปได้

ใช้เมมโมรี่การ์ดความจุสูงโดยไม่ล็อคการทำงานของคอมพิวเตอร์ โดยทำตามแนวทางต่อไปนี้

• หากใช้การ์ดในกล้องหรืออุปกรณ์อื่น ให้ต่ออุปกรณ์เข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB หรือ FireWire หลังจากเชื่อมต่อ อุปกรณ์ส่วนใหญ่จะปรากฏขึ้นใน Windows เป็น Removable Disk และสามารถใช้งานได้ลักษณะเดียวกับการ์ดรีดเดอร์
• ซื้ออุปกรณ์อ่านเมมโมรี่การ์ด USB สำหรับเสียบเข้ากับพอร์ต USB ที่ว่างอยู่ อุปกรณ์ USB จะต้องสามารถอ่านการ์ด SDHC ได้ อุปกรณ์เหล่านี้มีราคาไม่แพงและสามารถใช้กับคอมพิวเตอร์ที่มีพอร์ต USB
  รูปภาพ : หัวต่อการ์ดรีดเดอร์ SDHC กับ USB

  

การ์ดรีดเดอร์จะต้องรองรับ SDXC สามารถเรียกค้นการ์ด SDXC ได้โดยใช้รีดเดอร์ USB หรือหัวต่อที่รองรับ SDXC มองหาโลโก้ SDXC ที่อุปกรณ์ หรือตรวจสอบข้อมูลจากผู้ผลิตอุปกรณ์

  หมายเหตุ

อย่าฟอร์แมตเมมโมรี่การ์ด SDXC ในอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ เนื่องจากจะทำให้เมมโมรี่การ์ดไม่รองรับอุปกรณ์ SDXC เนื่องจากเป็นการลบข้อมูลในเมมโมรี่การ์ด SDXC และทำให้การ์ดใช้ระบบไฟล์ฟอร์แมตที่แตกต่างออกไป

หากไม่สามารถเรียกค้นเมมโมรี่การ์ด หรือไดร์ฟไม่ปรากฏในหน้าต่าง Computer ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้จนกว่าไดร์ฟจะปรากฏขึ้น:

บันทึก

หากไม่มีการ์ดในรีดเดอร์ Windows 8 จะไม่แสดงไดร์ฟในหน้าต่าง Computer (คอมพิวเตอร์)

บันทึก

หากใช้การ์ดรีดเดอร์ที่ไม่ได้มาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ ให้ติดต่อผู้ผลิตอะแดปเตอร์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม

1. ถอดหรือเสียบเมมโมรี่การ์ดเข้าไปใหม่
   หากหน้าต่าง AutoPlay เปิดขึ้นหรือหากเมมโมรี่การ์ดปรากฏขึ้นในรายการจากหน้าต่าง Computer (คอมพิวเตอร์) แสดงว่าดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว หรือ ไปยังขั้นตอนถัดไป
2. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
   หากหน้าต่าง AutoPlay เปิดขึ้นหรือหากเมมโมรี่การ์ดปรากฏขึ้นในรายการจากหน้าต่าง Computer (คอมพิวเตอร์) แสดงว่าดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว หรือ ไปยังขั้นตอนถัดไป
3. ติดตั้งอุปกรณ์เมมโมรี่การ์ดแต่ละตัวผ่าน Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์):
   1. นำเมมโมรี่การ์ดออกทั้งหมด จากนั้นถอดสื่อบันทึกข้อมูล USB ออกจากพอร์ต USB

      บันทึก

      อย่าลืมนำอุปกรณ์ USB ออกทั้งหมด

   2. คลิก Start (เริ่ม) พิมพ์ Device Manager ในช่องค้นหา จากนั้นกด Enter คลิก Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์ จากผลการค้นหา
   3. คลิกที่เครื่องหมายบวกติดกับ Disk Drives (ดิสก์ไดร์ฟ) เพื่อเปิดหมวดหมู่ดังกล่าว
   4. คลิกขวาที่ชื่อการ์ดรีดเดอร์ Generic (ทั่วไป) จากนั้นเลือก Uninstall (ถอนการติดตั้ง)
      รูปภาพ : การถอนการติดตั้งการ์ดรีดเดอร์

      
   5. รอให้ Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) ทำการอัพเดตรายการ จากนั้นลบชื่ออุปกรณ์ Generic ออก
   6. ถอนการติดตั้งชื่อการ์ดรีเดอร์ Generic ต่อไปจนกระทั่งถูกลบทั้งหมดออกจากรายการ
   7. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์และใช้การ์ดรีดเดอร์ หากปัญหายังมีอยู่ ให้ทำตามขั้นตอนถัดไป
4. ลองใช้เมมโมรี่การ์ดอื่นที่เป็นชนิดเดียวกัน แล้วเสียบในช่องเดิม หากเมมโมรี่การ์ดใช้งานได้ แสดงว่าการ์ดรีเดอร์เป็นปกติ เสียบเมมโมรี่การ์ดเดิมกลับเข้าไปใหม่ หากเมมโมรี่การ์ดตัวที่สองไม่ทำงาน ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ต่อไป
5. ปิดคอมพิวเตอร์ ปลดสายไฟ จากนั้นกดปุ่มเปิด/ปิดด้านหน้าคอมพิวเตอร์ห้าวินาที เสียบสายไฟกลับเข้าไปใหม่ จากนั้นเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อทดสอบการ์ดรีดเดอร์
   หากหน้าต่าง AutoPlay เปิดขึ้นหรือหากเมมโมรี่การ์ดปรากฏขึ้นในรายการจากหน้าต่าง Computer (คอมพิวเตอร์) แสดงว่าดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว หรือ ไปยังขั้นตอนถัดไป
6. เมมโมรี่การ์ดรีดเดอร์บางส่วนรองรับอุปกรณ์ USB เช่นกัน เสียบอุปกรณ์ USB เข้าที่พอร์ต USB ที่ว่างอยู่เพื่อทดสอบว่าการ์ดรีดเดอร์สามารถอ่านข้อมูลจากอุปกรณ์ USB ได้หรือไม่ หากอุปกรณ์ทำงานได้ตามปกติ ให้ดำเนินการต่อในขั้นตอนต่อไป หากอุปกรณ์ USB มีปัญหา แสดงว่ามีปัญหากับพอร์ต USB ดูเอกสารการให้บริการ การแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อผ่าน USB (Windows 7) เพื่อดูแนวทางแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม
7. ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และถอดปลั๊กไฟออก ส่องไฟฉายเข้าในช่องเสียบการ์ดที่ว่างอยู่ในการ์ดรีดเดอร์เพื่อดูว่าขาต่อด้านในงอหรือไม่ ดัดขาที่งอโดยใช้ปลายปากกาหรือวัสดุเป็นแท่ง เปลี่ยนเมมโมรี่การ์ดรีดเดอร์หรือนำคอมพิวเตอร์ส่งซ่อมหากขาต่องอและชนกับขาอื่น
   หากหน้าต่าง AutoPlay เปิดขึ้นหรือหากเมมโมรี่การ์ดปรากฏขึ้นในรายการจากหน้าต่าง Computer (คอมพิวเตอร์) แสดงว่าดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว หากไม่มีขาต่อที่งอ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไป
8. รีเซ็ตการต่อสายและเฟิร์มแวร์ของเมมโมรี่การ์ด โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
   1. นำด้านข้างของเคสคอมพิวเตอร์ออกโดยถอดสกรูยึดสองตัวที่ด้านหลังของคอมพิวเตอร์ จากนั้นเลื่อนฝาด้านข้างไปทางด้านหลังคอมพิวเตอร์ วางฝาเคสแยกไว้

        คำเตือน

      ขอบของแผงโลหะอาจบาดผิวหนังได้ ต้องระมัดระวังอย่าให้ผิวหนังสัมผัสถูกขอบโลหะด้านในของคอมพิวเตอร์

        หมายเหตุ

      Electrostatic Discharge (ESD) คือการปล่อยประจุไฟฟ้าสถิต ESD อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อส่วนประกอบภายในคอมพิวเตอร์ เพื่อลดโอกาสจากความเสียหายโดย ESD ให้สวมสายรัดป้องกัน ESD และปฏิบัติงานบนพื้นผิวที่แข็งและไม่เป็นพรม

   2. ค้นหาและถอดสายต่อจากด้านหลังของการ์ดรีดเดอร์ จากนั้นปล่อยแยกไว้
      รูปภาพ : การเชื่อมต่อกับรีดเดอร์แบบหนึ่ง (คอมพิวเตอร์ของคุณอาจแตกต่างไปจากนี้)

      
   3. สายอีกด้านจะต้องต่อเข้ากับเมนบอร์ดหรือการ์ดอิเล็กทรอนิกส์ที่ต่อกับเมนบอร์ดได้อย่างถูกต้อง ปลายด้านที่ไม่ได้ต่อสายจะต้องไม่สัมผัสกับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หรือส่วนประกอบภายในคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะพัดลม
      รูปภาพ : ขั้วต่อที่เมนบอร์ด (คอมพิวเตอร์ของคุณอาจแตกต่างไปจากนี้)

      
   4. ใส่ฝาเคสด้านข้างคอมพิวเตอร์กลับเข้าที่ จากนั้นเปิดคอมพิวเตอร์
   5. หลังจาก Windows เริ่มการทำงานและเดสก์ทอปปรากฏขึ้น ให้รอประมาณห้านาทีเพื่อให้ Windows ปรับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์อัตโนมัติตามความเหมาะสม
   6. ปิดคอมพิวเตอร์และนำฝาเคสด้านข้างคอมพิวเตอร์ออก
   7. ต่อสายกลับเข้าที่ด้านหลังของการ์ดรีดเดอร์ จากนั้นประกอบฝาเคสด้านข้างกลับเข้าที่ แล้วเปิดคอมพิวเตอร์
   8. ตรวจสอบว่าไดร์ฟปรากฏขึ้นในหน้าต่าง Computer (คอมพิวเตอร์) หรือ Windows Explorer หรือไม่:
      • หากไดร์ฟเมมโมรี่การ์ดปรากฏขึ้นใน Windows และทำงานได้ตามปกติ แสดงว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนแล้ว
      • หากไดร์ฟเมมโมรี่การ์ดไม่ปรากฏขึ้นใน Windows แสดงว่าไดร์ฟอาจต้องได้รับการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่

หากมีปัญหาในการอ่านและเขียนข้อมูลไปยังเมมโมรี่การ์ด ให้ทำตามคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาต่อไปนี้

• ลองใช้เมมโมรี่การ์ดอื่นที่เป็นชนิดเดียวกัน แล้วเสียบในช่องเดิม หากเมมโมรี่การ์ดใช้งานได้ แสดงว่าการ์ดรีเดอร์เป็นปกติ เสียบเมมโมรี่การ์ดเดิมกลับเข้าไปใหม่
• การ์ดบางชนิดมีสวิตช์ป้องกันการอ่าน/เขียนอยู่ด้วย สวิตช์จะต้องปรับไปที่ Write Enabled (รองรับการเขียน) ก่อนทำการเขียนข้อมูลลงไป
• จำนวนข้อมูลที่พยายามจัดเก็บจะต้องไม่เกินความจุของการ์ด
• ตรวจสอบปลายของเมมโมรี่การ์ดว่ามีคราบสกปรกหรือวัสดุที่อุดช่องเสียบหรือทำให้หน้าสัมผัสโลหะสกปรกหรือไม่ ทำความสะอาดหน้าสัมผัสด้วยผ้าที่ไม่มีขุยชุบไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์เล็กน้อย เปลี่ยนเมมโมรี่การ์ดในกรณีที่จำเป็น
• เมมโมรี่การ์ดจะต้องใช้งานได้กับการ์ดรีดเดอร์ที่มี
• เสียบเมมโมรี่การ์ดในช่องเสียบให้สุด
• นำเมมโมรี่การ์ดออกหากไฟไม่ติดกะพริบ จากนั้นส่องไฟเข้าในช่องเสียบเพื่อดูว่าขาเล็ก ๆ ด้านในงอหรือไม่ หากขาต่องอเล็กน้อย ให้ปิดคอมพิวเตอร์และดัดขาให้ตรงโดยใช้ปลายดินสอกด หากขาสองขาชนกัน ให้เปลี่ยนเมมโมรี่การ์ดรีดเดอร์หรือส่งคอมพิวเตอร์ซ่อม
• หากยังเกิดข้อผิดพลาด ให้เปลี่ยนเมมโมรี่การ์ด

ไดร์เวอร์สำหรับการ์ดรีดเดอร์อาจเสีหายหรือหยุดทำงานได้ ทำให้มีการจัดทำไดร์เวอร์และเฟิร์มแวร์ใหม่ ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาอยู่เสมอ เฟิร์มแวร์ใหม่สำหรับเมมโมรี่การ์ดรีดเดอร์ของคุณอาจมีเผยแพร่ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาที่คุณพบอยู่ได้

เพื่อให้แน่ใจว่าคุณใช้ไดร์เวอร์และเฟิร์มแวร์ตัวล่าสุด ให้ตรวจสอบซอฟต์แวร์ชุดใหม่เป็นประจำจากเว็บไซต์ฝ่ายบริการลูกค้าของ HP พิมพ์ชื่อผลิตภัณฑ์ของคุณในหน้าเว็บเพื่อดูรายการซอฟต์แวร์สำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณ

บันทึก

หากใช้หัวต่อสำหรับเมมโมรี่การ์ดที่รีดเดอร์ไม่รองรับและเมมโมรี่การ์ดไม่สามารถใช้งานได้ ให้ติดต่อผู้ผลิตหัวต่อเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม