HP PC - คอมพิวเตอร์ล็อคหรือค้าง

เปิด HP PC Hardware Diagnostics และเรียกใช้ Extensive Test (ทดสอบอย่างละเอียด)

1. จาก Windows ค้นหา และเปิดแอพ HP PC Hardware Diagnostics for Windows ขึ้นมา

   หากไม่มีแอพดังกล่าวในคอมพิวเตอร์ ให้ดาวน์โหลดเวอร์ชันล่าสุดจากเว็บไซต์ HP Hardware Diagnostics (ระบบวินิจฉัยปัญหาฮาร์ดแวร์ของ HP)

2. จากเมนูหลัก คลิกที่ System Tests (การทดสอบระบบ)

3. คลิกที่แท็บ System Extensive Test (ทดสอบระบบอย่างละเอียด)

4. คลิก Run once (เรียกใช้หนึ่งครั้ง)

   ขณะใช้การทดสอบนี้ เวลาที่เหลือและผลการทดสอบสำหรับส่วนประกอบต่างๆ จะปรากฏขึ้นที่หน้าจอ การทดสอบอาจใช้เวลา 2 ชั่วโมงขึ้นไปกว่าจะเสร็จสิ้น

5. หากส่วนประกอบไม่ผ่านการทดสอบ ให้คลิก Troubleshoot (แก้ไขปัญหา)

6. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อลองแก้ไขปัญหา จากนั้นคลิก Yes (ใช่)

7. หากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้คลิก Yes (ใช่) เพื่อติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ HP

8. จดบันทึกหรือคัดลอก ID ข้อผิดพลาด (รหัส 24 หลัก) และ ID ผลิตภัณฑ์เมื่อคุณติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ HP ข้อมูลยังมีแจ้งไว้ใน Test Logs (บันทึกประวัติการทดสอบ) จากเมนูหลัก

9. หากคอมพิวเตอร์ของคุณเป็นแบบออนไลน์ ให้คลิก NEXT (ถัดไป) เพื่อไปยังเว็บไซต์ฝ่ายบริการลูกค้าของ HP

   หากคอมพิวเตอร์ของคุณออฟไลน์ ให้ใช้อุปกรณ์พกพาของคุณเพื่อสแกนรหัส QR และเข้าถึงเว็บไซต์ฝ่ายบริการลูกค้าของ HP

ถอนการติดตั้งโปรแกรมใดๆ ที่อาจทำให้คอมพิวเตอร์ล็อคหรือค้าง เวอร์ชันเก่าของซอฟต์แวร์และการอัปเดตซอฟต์แวร์อาจเสียหาย ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหานี้ได้

1. กดปุ่ม Windows

2. คลิกไอคอน Power (เปิด/ปิดเครื่อง) กดปุ่ม shift ค้างไว้ จากนั้นคลิก Restart (รีสตาร์ท)

3. ที่หน้าจอ Choose an option (เลือกตัวเลือก) ให้คลิก Troubleshoot > Advanced options

4. คลิก Startup Settings (การตั้งค่าเริ่มต้น) Restart (รีสตาร์ท)

5. กด 4 เพื่อรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ใน Safe Mode Safe Mode จะปรากฏขึ้นที่มุมของหน้าจอทั้งสี่มุม

6. กดปุ่ม Windows

7. เลื่อนลงมาที่เมนูเริ่ม เลือก Windows System (ระบบ Windows) จากนั้นคลิก Control Panel (แผงควบคุม)

8. คลิก Programs and Features (โปรแกรมและคุณสมบัติ)

9. ค้นหาแอปพลิเคชั่นที่ทำให้ล็อคค้างและจดวันที่ติดตั้งไว้ หากแอปพลิเคชันถูกติดตั้งในวันเดียวกับที่เครื่องเริ่มเกิดปัญหาขึ้น แอปพลิเคชันนั้นอาจทำให้เกิดการล็อคเครื่อง

10. เลือกแอปพลิเคชันที่ทำให้ล็อคค้าง จากนั้นคลิก Uninstall (ถอนการติดตั้ง) หรือ Uninstall/Change (ถอนการติดตั้ง/เปลี่ยนแปลง)

    

11. ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อลบแอปพลิเคชั่น

12. ดำเนินการถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันในลักษณะนี้ต่อจนกระทั่งคุณลบซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการล็อคเครื่อง

13. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

การอัปเดต BIOS สามารถแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการค้างและล็อคของคอมพิวเตอร์ได้

1. ไปที่ ฝ่ายบริการลูกค้าของ HP เพื่อดูว่ามีการอัปเดต BIOS สำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณหรือไม่

2. พิมพ์ชื่อรุ่นคอมพิวเตอร์ของคุณ จากนั้นคลิก Submit (ส่ง) หรือให้ HP ตรวจหาผลิตภัณฑ์ของคุณ หน้าซอฟต์แวร์และไดรเวอร์สำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณจะเปิดขึ้นมา

3. หากมีการอัปเดต BIOS ให้ทำตามคำแนะนำในหน้าดาวน์โหลดเพื่อติดตั้งการอัปเดต สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้เลือกลิงก์ที่เหมาะสมสำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ:

   • สำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป ไปที่ PC เดสก์ทอปเพื่อผู้บริโภค HP - การอัปเดต BIOS (Basic Input Output System) (Windows) หรือ PC เดสก์ทอปเพื่อธุรกิจ HP - การอัปเดต BIOS (Basic Input Output System)

   • สำหรับโน้ตบุ๊ก ไปที่ PC โน้ตบุ๊กเพื่อผู้บริโภค HP - การอัปเดต BIOS (Basic Input Output System) (Windows) หรือ PC โน้ตบุ๊กเพื่อธุรกิจ HP - การอัปเดต BIOS (Basic Input Output System)

ใช้ Microsoft System Restore จากหน้าจอการโหลด Windows เมื่อ Windows ไม่ยอมเริ่มทำงานตามปกติ

1. ปิดคอมพิวเตอร์และรออย่างน้อย 5 วินาที

2. เปิดคอมพิวเตอร์และกดปุ่ม F11 ซ้ำ ๆ ประมาณทุกวินาทีจนกระทั่งหน้าจอโหลด Windows ปรากฏขึ้น

3. หากหน้าจอเลือกภาษาเปิดขึ้นมา ให้เลือกภาษาที่ต้องการใช้เพื่อดำเนินการต่อ

4. จากหน้าจอ Choose your keyboard layout (เลือกเค้าโครงแป้นพิมพ์ของคุณ) เลือกเค้าโครงแป้นพิมพ์ที่ตรงกับประเภทแป้นพิมพ์ของคุณ

5. บนหน้าจอ เลือกตัวเลือก คลิก แก้ไขปัญหา

6. คลิก Advanced Options (ตัวเลือกขั้นสูง) จากนั้นคลิก System Restore (การคืนค่าระบบ)

   หมายเหตุ:

   คุณอาจต้องเลือกบัญชีแล้วป้อนข้อมูลล็อกอิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของคุณ

7. คลิก Next (ถัดไป)

   

8. เลือก Restore Point (จุดคืนค่า) จากนั้นคลิก Next (ถัดไป)

9. คลิก เสร็จสิ้น เพื่อคืนค่าคอมพิวเตอร์ของคุณกลับไปยังจุดก่อนหน้า

   

10. คลิก Yes (ใช่) ในข้อความเตือนที่ปรากฏขึ้นมา

    ข้อควรระวัง:

    อย่าขัดจังหวะการคืนค่าระบบหลังจากที่เริ่มทำงานแล้ว

    

11. เมื่อการคืนค่าระบบเสร็จสิ้น คอมพิวเตอร์จะรีสตาร์ท