ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า HP - ฐานความรู้
  • ข้อมูล
    เรียนรู้วิธีอัปเกรดเป็น Windows 11

    คู่มือการอัปเกรด Windows 11

  • ข้อเสนอแนะ

HP PC - การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าการแสดงผล ภาพพื้นหลัง ไอคอน และภาพพักหน้าจอ (Windows 10)

เรียนรู้วิธีการเปลี่ยนขนาดข้อความ พื้นหลังเดสก์ทอป ขนาดไอคอน ภาพพักหน้าจอ และการตั้งค่าการแสดงผลเดสก์ทอปหรือการแสดงผลอื่นๆ ใน Windows

เปลี่ยนขนาดของข้อความ ความสว่างจอแสดงผล และความละเอียดหน้าจอ

คุณสามารถปรับขนาดข้อความและหน้าต่างเดสก์ทอปตามความต้องการของคุณ นอกจากนี้ยังสามารถปรับความละเอียดหน้าจอ นอกเหนือจากการตั้งค่าการแสดงผลอื่นๆ ได้อีกด้วย

หมายเหตุ:

ระหว่างการติดตั้ง Windows แบบปกติ โปรแกรมจะทดสอบการ์ดกราฟิกและแสดงขนาดและความละเอียดที่ดีที่สุดสำหรับการ์ดดังกล่าว

  1. จาก Windows ให้ค้นหาและเปิด Display settings (ค่าการแสดงผล) ขึ้นมา หรือสามารถคลิกขวาบนพื้นที่ว่างบนเดสก์ทอป จากนั้นเลือก Display settings (ตั้งค่าการแสดงผล)

  2. ปรับ Display orientation (ทิศทางจอแสดงผล) ระหว่าง Landscape (แนวนอน) และ Portrait (แนวตั้ง) หรือพลิกกลับด้านโดยเลือกตัวเลือกจากเมนูดรอปดาวน์ จากนั้นคลิก Keep Changes (เก็บค่าการเปลี่ยนแปลง) หรือ Revert (เปลี่ยนกลับ)

    เปลี่ยนทิศทางการแสดงผล
  3. เปลี่ยนขนาดข้อความและขนาดหน้าต่างแอพโดยเลือกขนาดที่คุณต้องการจากเมนูดรอปดาวน์ การเปลี่ยนแปลงจะมีผลในทันที

    เปลี่ยนขนาดข้อความ แอพ และรายการอื่นๆ
  4. การปรับความสว่างโดยการคลิกและลากแถบเลื่อนใน Brightness and color (ความสว่างและสี) การเปลี่ยนแปลงจะมีผลในทันที

    การปรับแถบเลื่อนเพื่อปรับความสว่าง
  5. การลดปริมาณแสงสีน้ำเงินที่มาจากจอแสดงผลทำโดยการเปิด Night light (ไฟกลางคืน) การกำหนดเวลาสำหรับไฟกลางคืนและเปลี่ยน hue ให้คลิกที่ Night light settings (การตั้งค่าไฟกลางคืน)

    การเปิดไฟกลางคืน
  6. การเปลี่ยน Display resolution (ความละเอียดจอแสดงผล) เลือกความละเอียดจากเมนูดรอปดาวน์ จากนั้นคลิก Keep Changes (เก็บค่าการเปลี่ยนแปลง) หรือ Revert (เปลี่ยนกลับ)

    หมายเหตุ:

    โดยส่วนใหญ่ขอแนะนำให้ใช้ความละเอียดดั้งเดิมของจอภาพซึ่งกำกับเป็น Recommended (แนะนำ)

    หากคุณมีจอภาพมากกว่าหนึ่งจอ เลือกจอภาพที่คุณต้องการปรับ จากนั้นทำขั้นตอนเหล่านี้ซ้ำเพื่อปรับความละเอียด หน้าต่างยืนยันจะปรากฏขึ้นมา

    เปลี่ยนแปลงความละเอียดของหน้าจอ

เปลี่ยนพื้นหลังเดสก์ทอปใน Windows

คุณสามารถปรับแต่งรูปแบบหรือภาพบนพื้นหลังหน้าจอ Start

  1. จาก Windows 10 ให้ค้นหาและเปิด Background image settings (การตั้งค่าพื้นหลัง) ขึ้นมา หรือสามารถคลิกขวาบนพื้นที่ว่างบนเดสก์ทอป จากนั้นเลือก Personalize (ปรับแต่ง)

  2. การเปลี่ยนภาพหรือสีที่แสดงอยู่ในพื้นหลัง เลือก Picture (ภาพ), Solid color (สีเข้ม) หรือ Slideshow (สไลด์โชว์) จากเมนูดรอปดาวน์

    ตัวเลือก Background and color (พื้นหลังและสี)
  3. เลือกภาพ สี สไลด์โชว์ หรือคลิก Browse (เรียกดู) เพื่อเลือกภาพหรือสไลด์โชว์ที่ต้องการ

  4. การเปลี่ยนรูปแบบการแสดงภาพบนพื้นหลัง เลือก Fill (เติม), Fit (พอดี), Stretch (ยืด), Tile (แถบรายการ), Center (ตรงกลาง), หรือ Span (ขยาย) จากเมนูดรอปดาวน์ การเปลี่ยนแปลงจะมีผลในทันที

    เปลี่ยนพื้นหลังให้พอดี

ปรับไอคอนเดสก์ทอป

เปลี่ยนการตั้งค่าเพื่อปรับรูปลักษณ์ไอคอน แสดงไอคอนเดสก์ทอปที่สูญหาย และเพิ่มโฟลเดอร์หรือชอร์ตคัทไปยังเดสก์ทอป

ปรับขนาดของไอคอนเดสก์ทอป

คุณสามารถเปลี่ยนขนาดไอคอนจากเดสก์ทอป Windows

ในการเปลี่ยนขนาดของไอคอนเดสก์ทอป ให้คลิกขวาบริเวณที่ว่างบนเดสก์ทอป เลือก View (มุมมอง) จากนั้นคลิก Large icons (ไอคอนขนาดใหญ่), Medium icons (ไอคอนขนาดกลาง) หรือ Small icons (ไอคอนขนาดเล็ก)

หมายเหตุ:

คุณสามารถปรับขนาดไอคอนทั้งหมดได้พร้อมกันโดยคลิกที่พื้นที่ว่างบนเดสก์ทอป จากนั้นกดค้างที่ปุ่ม ctrl และใช้ลูกกลิ้งเมาส์เพื่อปรับ

ปรับขนาดไอคอนเดสก์ทอป

เปลี่ยนชื่อไอคอนเดสก์ทอป

คุณสามารถเปลี่ยนชื่อไอคอนเดสก์ทอปได้

  1. ในการเปลี่ยนชื่อไอคอนเดสก์ทอป ให้คลิกขวาที่ไอคอน จากนั้นเลือก Rename (เปลี่ยนชื่อ)

  2. พิมพ์ชื่อใหม่ จากนั้นกด Enter

    เปลี่ยนชื่อไอคอนเดสก์ทอป

แสดงไอคอนเดสก์ทอปที่หายไป

หากไอคอนเดสก์ทอปทั้งหมดหายไป คุณสามารถกู้คืนโดยใช้ขั้นตอนนี้

หากไอคอนเดสก์ทอปทั้งหมดหายไป ให้คลิกขวาบนส่วนพื้นที่ว่างบนเดสก์ทอป เลือก View (มุมมอง) จากนั้นตรวจสอบว่าได้เลือก Show desktop icons (แสดงไอคอนเดสก์ทอป)

แสดงไอคอนเดสก์ท็อป

สร้างโฟลเดอร์ใหม่

หากต้องการนำโฟลเดอร์ใหม่ที่แสดงในเดสก์ทอป โปรดนำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. สร้างโฟลเดอร์ใหม่จากเดสก์ทอป Windows โดยคลิกขวาที่พื้นที่ว่างของเดสก์ทอป จากนั้นคลิก New (สร้าง) จากนั้นคลิก Folder (โฟลเดอร์)

  2. พิมพ์ชื่อของคุณในโฟลเดอร์ จากนั้นกด Enter

    สร้างโฟลเดอร์ใหม่ในเดสก์ทอป

สร้างทางลัดใหม่ในเดสก์ทอป

จัดทำชอร์ตคัทใหม่ที่เดสก์ทอปโดยลากและวางแอพจากเมนู Start ไปยังเดสก์ทอป

หรือสามารถคลิกขวาบนพื้นที่ว่างบนเดสก์ทอป จากนั้นเลือก New (สร้าง) แล้วเลือก Shortcut (ชอร์ตคัท) จากนั้นทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อจัดทำชอร์ตคัท

สร้างทางลัดใหม่

เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของหน้าต่างและข้อความในคุณสมบัติต่างๆ ของ Windows

คุณสามารถปรับรูปลักษณ์ของ Windows ได้โดยเลือกสีข้อความ พื้นหลังข้อความ ขอบหน้าต่างและส่วนประกอบอื่นๆ ที่ต้องการ นอกจากนี้คุณสามารถเลือกแบบอักษรและขนาดอักษรสำหรับคุณสมบัติการทำงานต่าง ๆ ของ Windows เช่น รายการเมนู

  1. จาก Windows ให้ค้นหาและเปิด Themes and related settings (ธีมและการตั้งค่าที่เกี่ยวข้อง) หรือสามารถคลิกขวาบนพื้นที่ว่างบนเดสก์ทอป จากนั้นเลือก Personalize (ปรับแต่ง)

  2. จากหน้าต่าง Personalization (การปรับแต่ง) คลิกที่ Background (พื้นหลัง), Colors (สี), Lock Screen (หน้าจอล็อค), Themes (ธีม), Fonts (ตัวอักษร), Start (เริ่ม) หรือ Taskbar (ทาสก์บาร์) เพื่อเปิดหน้าต่างค่าที่เกี่ยวข้องขึ้นมา

  3. ปรับค่า การเปลี่ยนแปลงจะมีผลในทันที

    การปรับแต่งการแสดงหน้าต่างซึ่งกำลังแสดงการตั้งค่าหน้าจอล็อค

การตั้งค่าการแสดงผลเพิ่มเติม

เปิดการตั้งค่าคุณสมบัติการแสดงผลขั้นสูงหรืออะแดปเตอร์การแสดงผลเพื่อดูโหมด ตั้งอัตราการรีเฟรช หรือจัดการสีและการตั้งค่าขั้นสูงอื่น ๆ

  1. เปิดการตั้งค่าการแสดงผลขั้นสูงโดยค้นหาและเปิดDisplay settings (การตั้งค่าการแสดงผล) ใน Windows หรือสามารถคลิกขวาที่เดสก์ทอป จากนั้นเปิด Display settings (การตั้งค่าการแสดงผล) เลื่อนรายการลง คลิกที่ Advanced display settings (ค่าการแสดงผลขั้นสูง)

    การเปิดคุณสมบัติของอะแดปเตอร์การแสดงผลขั้นสูง
  2. ในหน้าต่าง Advanced display settings (การตั้งค่าการแสดงผลขั้นสูง) ให้เลือกจอแสดงผลเพื่อดูค่าปัจจุบัน หากต้องการเปลี่ยนการตั้งค่าการแสดงผล ให้คลิก Display adapter properties (คุณสมบัติอะแดปเตอร์การแสดงผล)

  3. คลิกที่แท็บเพื่อปรับค่าที่เกี่ยวข้อง

    หมายเหตุ:

    คอมพิวเตอร์ของคุณอาจมีแท็บมากกว่าที่แสดงในที่นี้ ผู้ผลิตการ์ดแสดงผลหลายรายจัดหาการตั้งค่าที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับฮาร์ดแวร์วิดีโอของตน การตั้งค่าพิเศษเหล่านี้แตกต่างกันไปตามชนิดของฮาร์ดแวร์วิดีโอที่ใช้และจะไม่กล่าวถึงในที่นี้

    • อะแดปเตอร์
      • คุณสมบัติ : คลิกปุ่ม Properties (คุณสมบัติ) เพื่อเข้าถึงคุณสมบัติของฮาร์ดแวร์สำหรับการ์ดแสดงผลของคุณหรือฮาร์ดแวร์วิดีโอบนบอร์ด หน้าต่างคุณสมบัตินี้ยังสามารถเข้าถึงได้โดยผ่านทางตัวจัดการอุปกรณ์

      • แสดงทุกโหมด : แสดงความละเอียดกราฟิกทั้งหมดที่สนับสนุนและอัตรารีเฟรชที่สามารถส่งไปยังจอภาพโดยการ์ดแสดงผลหรือฮาร์ดแวร์วิดีโอบนบอร์ด คุณสามารถใช้รายการโหมดที่มีใช้ได้เพื่อค้นหาโหมดที่เข้ากันได้กับจอภาพที่คุณกำลังใช้งาน หลังจากที่พบโหมดที่เข้ากันได้ คุณจะสามารถเปลี่ยนแปลงอัตรารีเฟรชได้จากแท็บจอภาพ และความละเอียดในการแสดงผลจากแท็บการตั้งค่าของหน้าต่างคุณสมบัติการแสดงผลพื้นฐาน

    • จอภาพ
      • คุณสมบัติ : คลิกปุ่ม Properties (คุณสมบัติ) เพื่อเข้าถึงคุณสมบัติของฮาร์ดแวร์สำหรับจอภาพของคุณ หน้าต่างคุณสมบัตินี้ยังสามารถเข้าถึงได้โดยผ่านทางตัวจัดการอุปกรณ์

      • อัตรารีเฟรชหน้าจอ : ระบุว่าจอภาพจะแสดงหน้าจอทั้งหมดกี่ครั้งภายในหนึ่งวินาที อัตรารีเฟรชที่สูงกว่าอาจดูสบายตามากกว่า แต่อาจทำให้ฮาร์ดแวร์วิดีโอต้องทำงานหนักขึ้นและใช้ทรัพยากรมากขึ้น เลือกอัตราที่ต่ำกว่าซึ่งเข้ากันได้กับอะแดปเตอร์ ถ้าคุณสามารถตรวจจับการกะพริบหรือการเปลี่ยนแปลงทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตา ให้ลองปรับเป็นอัตราที่สูงขึ้นถัดไป อย่าปรับจนเกินอัตราที่ใช้ได้กับจอภาพ

        ข้อควรระวัง:

        อย่าลบรายการที่เลือกติดกับ Hide modes that this monitor cannot display (ซ่อนโหมดที่จอภาพนี้ไม่รองรับ) การเปลี่ยนอัตรารีเฟรชให้เป็นอัตราที่จอภาพไม่สามารถยอมรับได้อาจสร้างความเสียหายต่อจอภาพบางรุ่นอย่างถาวร

    • การจัดการสี :

      แท็บการจัดการสีแสดงการตั้งค่าสำหรับการเปลี่ยนแปลงเอาต์พุตสีสำหรับจอภาพ โดยทั่วไปแล้ว คุณไม่ได้ใช้การจัดการสี ยกเว้นในสถานการณ์พิเศษ เช่น การจับคู่สีบนจอภาพกับสีบนเครื่องพิมพ์ การปรับการตั้งค่านี้จะเปลี่ยนแปลงเอาต์พุตสีสำหรับทุกสิ่งที่แสดงใน Windows และควรจะทำเฉพาะในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น

  4. คลิก Ok (ตกลง) เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงของคุณและปิดหน้าต่าง

เปลี่ยนภาพพักหน้าจอ

Windows ได้รับการโหลดมาพร้อมภาพพักหน้าจอจำนวนมากที่ให้คุณเลือก

  1. จาก Windows ให้ค้นหาและเปิด Change screen saver (เปลี่ยนภาพพักหน้าจอ) หน้าต่าง Screen Saver Settings (การตั้งค่าภาพพักหน้าจอ) จะปรากฏขึ้น

  2. เลือกภาพพักหน้าจอจากเมนู

    การตั้งค่าภาพพักหน้าจอ
  3. คลิก Settings (การตั้งค่า) เพื่อเปิดหน้าต่างการตั้งค่าสำหรับภาพพักหน้าจอที่เลือก (หากมีค่าให้เลือก)

  4. คลิก Preview (แสดงตัวอย่าง) เพื่อดูการแสดงผลภาพพักหน้าจอที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เลื่อนเมาส์เมื่อเสร็จสิ้นการดูตัวอย่างภาพพักหน้าจอ

  5. เลือกจำนวนนาทีในฟิลด์ Wait (รอ) นี่คือจำนวนนาทีที่ไม่ได้ใช้งานก่อนที่ภาพพักหน้าจอจะเปิดขึ้น

    หมายเหตุ:

    Wait time (เวลารอ) สำหรับภาพพักหน้าจอควรต่ำกว่าจำนวนนาทีก่อนที่คอมพิวเตอร์จะเข้าสู่โหมดสลีป

  6. หากต้องการให้คอมพิวเตอร์ขอข้อมูลล็อกอินเมื่อทำงานต่อ ให้เลือก On resume, display logon screen (เมื่อทำงานต่อ ให้แสดงหน้าจอล็อกอิน)

  7. คลิก Ok (ตกลง) เพื่อบันทึกการตั้งค่าและปิดหน้าต่างคุณสมบัติการแสดงผล

แก้ไขปัญหาภาพพักหน้าจอ

หากภาพพักหน้าจอไม่เปิดขึ้นมาหลังจากผ่านเวลาที่เลือกไว้ ปัญหาอาจเกิดจากการทำงานของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์บางตัว ใช้การตั้งค่า Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) เพื่อป้องกันอุปกรณ์เหล่านี้จากการรบกวนภาพพักหน้าจอ:

  1. จาก Windows ให้ค้นหาและเปิด Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์)

  2. ดับเบิลคลิกที่ประเภทอุปกรณ์ที่อาจรบกวนภาพพักหน้าจอ จากนั้นดับเบิลคลิกที่ชื่ออุปกรณ์เพื่อเปิดหน้าต่าง Properties (คุณสมบัติ)

    อุปกรณ์บางตัวที่มักรบกวนการทำงานของภาพพักหน้าจอได้แก่ออพติคอลเมาส์ (เมาส์และอุปกรณ์ชี้ตำแหน่ง) การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ตั้งค่าเป็น "Always-on" (เปิดตลอด) (อะแดปเตอร์เครือข่าย) และระบบเสียงความละเอียดสูง (ตัวควบคุมเสียง วิดีโอ และเกม)

  3. คลิกแท็บ Power Management (การจัดการพลังงาน) และลบเครื่องหมายเลือกออกจาก Allow this device to wake the computer (อนุญาตให้อุปกรณ์นี้ปลุกคอมพิวเตอร์)

    หมายเหตุ:

    หากคุณตั้งค่าไม่ให้เมาส์ปลุกการทำงานของคอมพิวเตอร์ คุณสามารถปลุกคอมพิวเตอร์โดยการกด spacebar ที่แป้นพิมพ์

    แท็บการจัดการพลังงานสำหรับเมาส์
  4. คลิก OK (ตกลง) เพื่อปิดหน้าต่างที่เปิดอยู่ จากนั้นรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

  5. ถอดสายเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งหมดที่ไม่จำเป็น เช่น เครื่องพิมพ์ สแกนเนอร์ และไดรฟ์ USB

  6. เริ่มการทำงานของคอมพิวเตอร์อีกครั้งโดยเชื่อมต่อเฉพาะเมาส์ จอภาพ และแป้นพิมพ์

    หากวิธีนี้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสลีป/สแตนด์บาย แสดงว่าหนึ่งในอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหา เปลี่ยนอุปกรณ์ตัวหนึ่งและทดสอบดูว่าปัญหานี้ยังเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ดำเนินการเพิ่มและทดสอบอุปกรณ์ต่อไปจนกว่าคุณจะพบอุปกรณ์ที่เป็นต้นเหตุของปัญหา



ประเทศ/ภูมิภาค: Flag ไทย